การบำรุงรักษาอย่างไรเพื่อรักษาสิ่งเเวดล้อมให้ดี

บทความโดย อาจารย์สุพร  อัศวินนิมิตร

วันที่ 7 เมษายน 2554

 

        ปัจจุบันเครื่องจักรและอุปกรณ์ชนิดต่างๆเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในด้านการผลิตเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการที่จะให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ให้มีความสะดวกและรวดเร็วในการผลิต และให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการผลิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งได้มีการนำเอาเครื่องจักรและอุปกรณ์อัตโนมัติรวมถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่สามารถทำงานตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามาใช้กันมากขึ้นด้วย

 

       การนำเอาเครื่องจักรและอุปกรณ์มาใช้ในการผลิตนั้น มิได้มีเพียงข้อดีที่เครื่องจักรและอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถทำงานตามความต้องการในการผลิตเท่านั้น แต่ในอีกด้านหนึ่งแสดงว่าการผลิตนั้นๆขึ้นอยู่กับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการผลิต นั่นก็คือ ถ้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่นำมาใช้เกิดการชำรุดเสียหายก็จะทำให้การผลิตต้องหยุด หรือถ้าเครื่องจักรและอุปกรณ์เมื่อใช้งานไปแล้วเกิดการเสื่อมสภาพขึ้น สินค้าที่ผลิตออกมาก็จะไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนด และความเร็วในการผลิตก็อาจลดลงไปด้วย นอกจากนี้เมื่อเครื่องจักรและอุปกรณ์เสื่อมสภาพ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้นๆลดลง เป็นผลให้มีการสิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มมากขึ้น และหากเครื่องจักรและอุปกรณ์มีการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง หรือออกแบบมาไม่ดีพอ รวมทั้งไม่มีการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ก็จะเกิดอันตรายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดมลภาวะในสิ่งเเวดล้อมด้านต่างๆตามมาอีกด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นข้อเสียของเครื่องจักรและอุปกรณ์เมื่อนำมาใช้ในการผลิต นอกเหนือไปจากการลงทุนในการจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายในการใช้งานและบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์เหล่านี้ที่จะต้องเสียอยู่แล้ว

 

       การปฏิบัติต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อรักษาข้อดีไว้ และทำให้ข้อเสียที่ทำให้เกิดมลภาวะในสิ่งเเวดล้อมด้านต่างๆเกิดขึ้นมีน้อยที่สุดนั้นก็คือ การใช้งาน (operation) และการบำรุงรักษา(maintenance) ที่ถูกต้องและเหมาะสมนั่นเอง โดยการปฏิบัติต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งสองประการนี้

การบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้ (reliability centered maintenance ) เป็นแนวทางในการจัดการงานบำรุงรักษารูปแบบหนึ่งที่จะนำไปสู่ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อลดมลภาวะในสิ่งเเวดล้อมด้านต่างๆเกิดขึ้นมากที่สุดนั้น ดังนั้นผู้บริหารโรงงานที่ยังคงประสบกับปัญหาของการจัดการงานบำรุงรักษาและกำลังหาทางแก้ไขจึงน่าที่จะศึกษาและทำความเข้าใจกับการจัดการงานบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้นี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้มุมมองในด้านการจัดการงานบำรุงรักษาใหม่อีกมุมมองหนึ่ง

 

        นอกจากนี้ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินงานบำรุงรักษาตามกรรมวิธีของการบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้ และเพื่อรักษาสิ่งเเวดล้อมให้ดีนี้ ซึ่งพอสรุปประโยชน์ที่จะได้รับได้ คือ

 

1. ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น เนื่องจากการบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้จะพิจารณาในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของรูปแบบข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบ จึงจะมีการดำเนินการเพื่อลดอันตรายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรและส่วนประกอบให้เหลือน้อยที่สุดหรือกำจัดให้หมดไปถ้ามีความเป็นไปได้

2. สมรรถนะการทำงานของระบบดีขึ้น ผลผลิต และคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะดีขึ้น เนื่องจากการบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้จะคำนึงถึงรูปแบบของการบำรุงรักษาทุกรูปแบบแล้วเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละสถานะการณ์ ซึ่งเป็นผลให้เครื่องจักรและส่วนประกอบแต่ละชิ้นได้รับการบำรุงรักษาในรูปแบบที่ได้ผลดีที่สุด การทำงานของระบบย่อมได้รับผลดีไปด้วยในที่สุด

3. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากขึ้น เนื่องจากการบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้จะมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมการบำรุงรักษาที่ให้ผลที่ดีที่สุดต่อสมรรถนะของเครื่องจักรและส่วนประกอบของระบบ ซึ่งก็ทำให้แน่ใจได้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ไปในการบำรุงรักษาได้ใช้ไปอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ถ้าเป็นการนำเอากรรมวิธีของการบำรุงรักษาเพื่อความเชื่อถือได้ไปใช้กับระบบการบำรุงรักษาที่มีอยู่แล้ว ก็จะช่วยลดปริมาณงานบำรุงรักษาที่ต้องทำเป็นประจำลง ซึ่งก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลดลงในที่สุด

4. อายุการใช้งานของเครื่องจักรและส่วนประกอบของระบบยาวขึ้น เนื่องจากเครื่องจักรและส่วนประกอบจะได้รับการบำรุงรักษาในรูปแบบที่เหมาะสม โดยทั่วไปก็มีการบำรุงรักษาตามสภาพที่มากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการบำรุงรักษาป้องกันที่มีผลทำให้อายุการใช้งานของเครื่องจักรและส่วนประกอบยาวขึ้น

5. พนักงานมีแรงจูงใจและมีการทำงานเป็นทีมมากขึ้น พนักงานทั้งของหน่วยงานผลิตและหน่วยงานบำรุงรักษาจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดปัญหาและหาวิธีการแก้ไขปัญหาโดยร่วมกันวิเคราะห์รูปแบบของข้อขัดข้องและผลที่จะเกิดขึ้นรวมถึงการกำหนดกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติต่อเครื่องจักรและส่วนประกอบที่เหมาะสมที่สุด ทำให้มีความรู้สึกในความเป็นเจ้าของแนวความคิด