การประเมินผลการฝึกอบรมด้วยสถิติบน Excel

บทความโดย : อ.บรรณวิท  มรีเนตร

วันที่ 22 กุมภาพันธ์  2554

 

เมื่อผู้บริหารระดับสูงถามผู้จัดการฝ่ายบุคคลว่า

“เมื่อส่งลูกน้องไปอบรมแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า พนักงานมีความรู้เพิ่มขึ้น”

คำตอบของผู้จัดการฝ่ายบุคคลคือ “ก็ดูจากคะแนนสอบ ว่าสอบผ่านหรือไม่”

“เกณฑ์ผ่านคือเท่าไร”

“50%” ฝ่ายบุคคลตอบ

“ถ้างั้นไม่ต้องอบรมก็มีความรู้แล้วมั๊ง แค่ 50% เอง”

“??”

บทสนทนาข้างต้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างคลาสสิก ที่ฝ่ายบุคคลยากที่จะตอบให้ได้ว่า

“ก่อนและหลังอบรมนั้นพนักงานมีความรู้มากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่?” และ

“เกณฑ์ที่ใช้บอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน จะใช้เกณฑ์ใดดี?”

การประเมินผลการฝึกอบรมโดยการใช้ข้อสอบนั้น คือการวัดว่าผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ที่มากขึ้นอย่างที่ต้องการหรือไม่

ถ้าเราใช้เป็นคะแนนว่าสอบผ่านหรือไม่ผ่าน ประเด็นที่ตามมาทันทีคือเกณฑ์ที่ใช้คืออะไร 50% หรือ 80% ถ้าเลือก 50% ก็เกรงว่าจะน้อยเกินไปผ่านหมดทุกคน ถ้าเลือก 80% ก็เกรงว่าจะตกกันเป็นส่วนใหญ่ และยิ่งหนักไปกว่านั้นคือ ถ้าอยากให้ผ่าน 80% ก็ทำไม่ยากเพียงแค่ออกข้อสอบให้ง่ายขึ้นคนที่เข้าสอบก็สอบผ่านทั้งหมด แต่นั่นหมายความว่าพนักงานที่เข้าอบรมมีความรู้จริงหรือ แล้วถ้าเราใช้คะแนนเฉลี่ยของพนักงานที่เข้าเรียนมาเป้นตัวชี้วัดจะได้หรือไม่

ลองจินตนาการว่า ถ้ามีผู้เรียน 2 คน คนหนึ่งสอบได้ 20 เต็ม อีกคนได้ 10 คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 15 คะแนน สรุปว่าผ่านใช่ไหม หรือผ้าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนได้ 15 คะแนน หลังเรียนได้ 17 คะแนน แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้มากขึ้นจริงหรือไม่

ในเมื่อมันมีหลายประเด็นขนาดนี้ เราควรที่จะใช้เครื่องมือใดในการวัดผลการฝึกอบรมดี

คำตอบคือ “ใช้วิธีทางสถิติ” ซึ่งสถิตินั้นถือว่าเป็นภาษาสากลที่ทั่วโลกยอมรับ ใครที่สามารถใช้ภาษาทางสถิติได้ ไม่ว่าจะนำเสนอกับใครก็จะเป็นที่ยอมรับในทุกวงการ

ถ้าเราต้องการให้การฝึกอบรมที่เราจัดนั้นสามารถวัดผลได้จริงเราจึงควรใช้วิธีการทางสถิติที่เรียกว่า สถิติทดสอบ ซึ่งมีสามารถบอกได้ว่า ก่อนอบรมและหลังอบรมนั้นผู้เข้าอบรมมีความรู้ที่มากขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ถ้าไม่ก็แสดงว่าการฝึกอบรมนั้นไม่ได้ผล แต่ถ้าใช้ก็แสดงว่าการฝึกอบรมนั้นได้ผลดีจริง และเนื่องจากสถิติเป็นภาษาสากล ดังนั้นการใช้วิธีสถิติทดสอบจึงเป็นวิธีการที่ทั่วโลกยอมรับ ใครจะมาลบล้างได้ยาก

แต่เมื่อพูดถึงสถิติแล้วหลายคนเบ้อาจหน้า เพราะมีความรู้สึกว่าเข้าใจยาก แต่อันที่จริงแล้ววิธีทางสถิตินั้นไม่ยากอย่างที่คิดและ ยิ่งเรามีโปรแกรม Excel ด้วยแล้วเราก็สามารถที่จะใช้ Excel ทำการประเมินทางสถิติได้แต่คอมพิวเตอร์ก็คือวัตถุ มันทำงานตามโปรแกรมที่ตั้งไว้สิ่งที่ให้ได้คือข้อมูล แต่การตีความข้อมูลที่ไม่มาต่างหากที่สำคัญ ถ้า Excel บอกแบบนี้หมายความว่าอย่างไร และเราควรไปปรับปรุงที่ใด ข้อสอบ เนื้อหา ฯลฯ

การประเมินผลการฝึกอบรมต้องวิธีทางสถิติ จะเป็นการเปิดทางให้ท่านสามารถยกระดับการฝึกอบรมของท่านให้ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และประหยัดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมจากการอบรมที่ไม่มีประสิทธิภาพได้