ปัจจัยในการทำ TPM ให้สำเร็จ

บทความโดย : อ.บรรณวิท  มณีเนตร

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553

 

มีหลายคนถามผมว่า “มีองค์กรน้อยมากที่นำ TPM ไปใช้แล้วประสบความสำเร็จ

อยากทราบว่าเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง”

 

คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก ผมเองในฐานะที่เป็นที่ปรึกษา TPM

พบว่าสิ่งที่ถามนั้นก็เป็นจริง

ผมจึงมานั่งรวบรวมว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้องค์กรที่ทำ TPM แล้วประสบความสำเร็จ

 

ปัจจัยที่ทำให้สำเร็จ

o  ปัจจัยแรกคือ ผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องให้การสนับสนุนในด้านงบประมาณ เวลา

อีกทั้งยังคอยติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลา

ไม่ปล่อยให้กิจกรรมเป็นหน้าที่ของคนอื่น

 

o  ปัจจัยที่สองคือ การให้ความรู้ความเข้าใจเรื่อง TPM แก้ทีมงานทุกระดับ

ขอเน้นว่าต้องทุกระดับ เนื่องจากการดำเนินการกิจกรรม TPM

เป็นกิจกรรมที่ต้องการแรงใจและการดำเนินการที่ต่อเนื่องยาวนาน

ในการทำงานอย่างมาก อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับคนในวงกว้าง

ดังนั้นหากพนักงานในระดับใดมีความเข้าใจที่ผิดในการดำเนินการ TPM

ก็จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการกิจกรรมได้

 

o  ปัจจัยที่สามคือ ความเข้าใจในนโยบายที่ชัดเจนจากผู้บริหาร

และสื่อสารไปให้กับพนักงานทุกระดับเกี่ยวกับ TPM

เนื่องจาก TPM เป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นมาก

ดังนั้นการสื่อสารให้ชัดเจนว่าเราจะทำอะไร  จะใช้ TPM มาเป็นเครื่องมือ

ในการทำให้องค์กรเดินไปข้างหน้า จะใช้ TPM

ในการทำให้ KPI ที่ได้กำหนดไว้ประสบความสำเร็จ

เพื่อที่จะให้พนักงานทุกคนปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

 

o  ปัจจัยที่สี่คือ ความคิดของหน่วยงานช่าง

ต้องเปลี่ยนความคิดของหน่วยงานช่างให้ได้

จากความคิดที่ว่า  ฉันมีหน้าที่ซ่อม เมื่อเครื่องเสีย  เป็นฉันต้องวางแผนป้องกัน

ไม่ให้เครื่องเสีย ซึ่งการที่จะทำเช่นนี้ได้

ช่างต้องเข้าใจการทำงานของเครื่องจักรทั้งหมดเป็นอย่างดี

ต้องทราบว่าชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องจักรนั้นต้องการ

การบำรุงรักษาอย่างไรและใครควรเป็นคนทำ ช่างต้องเปลี่ยนจากช่างธรรมดา

ไปสู่อาจารย์ของ Autonomous Maintenance

ที่พร้อมจะให้ความรู้กับพนักงานในฝ่ายผลิต

 

o  ปัจจัยที่ห้าคือ ข้อมูลความสูญเสียความสูญเปล่าของเครื่องจักร

เพื่อใช้ในการกำหนดกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละเสาหลักให้ได้อย่างถูกต้อง

เช่นเราความเลือกเครื่องจักรใดในการทำ Model เหตุผลเพราะอะไร

หาไม่แล้วการดำเนินการกิจกรรมจะเกิดคำถามว่า ”ทำแล้วได้อะไร”

ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้พวกที่ไม่อยากทำมีเหตุผลในการต่อต้านมากขึ้น

 

o  ปัจจัยที่หกคือ Pillar Leader ตัว Pillar Leader

ต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างในการทำกิจกรรม เพราะพนักงานคนอื่นๆ

กำลังมอง Pillar Leader อยู่ว่ากำลังทำอะไร จริงจังกับเรื่องที่ทำมากน้อยแค่ไหน

หวั่นไหวกับปัญหา หรือย่อท้อกับอุปสรรคในการทำกิจกรรมไหม

ถ้า Pillar Leader ยังไม่เชื่อและศรัทธาในกิจกรรม TPM

ก็จะทำให้พนักงานพลอยไม่เชื่อหรือศรัทธาด้วย เหมือนแม่ปูกับลูกปู

 

o  ปัจจัยสุดท้ายคือ TPM Coordinator ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญมาก

นอกจากจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชื่อและศรัทธาใน TPM แล้ว

ยังต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการสื่อสารกับคนได้หลากหลายแบบ

เนื่องจากการทำ TPM เป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงานของคน

ในสถานที่ทำงานดังนั้นย่อมต้องให้ทั้งไม้อ่อน ไม้แข็ง ทั้งลูกล่อ ลูกชนรอบด้าน

เพื่อให้กิจกรรมเดินไปสู่ความสำเร็จ นี่เป็นเพียงปัจจัยที่ส่งเสริมให้กิจกรรม TPM

เดินหน้าไปได้เท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ความต้องการขององค์กรหรือ Passion

ในการทำ TPM ซึ่งหากขาดซึ่งความอยากทำเสียแล้วทุกอย่างก็จบเท่านั้น

คราวหน้าจะพูดถึงปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการทำ TPM ว่ามีอะไรบ้าง