OEE คือ ฐานข้อมูล

บทความโดย : อ.บรรณวิท  มณีเนตร

วันที่ 24 มิถุนายน 2553

 

เคยสงสัยไหมว่า OEE หรือ Overall Equipment Effectiveness ที่เรานิยมใช้ในการวัดประสิทธิภาพการผลิตนั้น มันพยายามบอกอะไรกันเรา 

หลายองค์กรพบกับปัญหาว่า OEE ที่วัดได้ต่ำมากเมื่อเทียบกับองค์กรอื่นที่ผลิตสินค้าแบบเดียวกัน ส่วนมากเมื่อ OEE ตกต่ำเป็นเรื่องที่ผู้บริหารมักจะรับไม่ได้ มันเป็นตัวสะท้อนว่าการควบคุมสายการผลิต

เป็นไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร เหมือนการประจานตัวเองว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

แต่ผมกลับมองตรงข้าม การที่ OEE ของเราต่ำ สิ่งที่เราต้องทำในฐานะของผู้บริหารคือ

          1. องค์กรของเรามีต้นทุนการผลิตอย่างไร (ตรงนี้ต้องขยายความสักนิด การที่องค์กรจะกำไรหรือขาดทุกเกิดได้จากหลายปัจจัย การกู้เงินมากเกินไปทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงเกินรายได้ก็มีผลทำให้ขาดทุนเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องมองที่ EBIT หรือ Earn Before Interest and Tax หรือรายได้ก่อนที่จะหักดอกเบี้ย และภาษี) 

          2. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใน EBIT นั้นเกิดขึ้นจากรายการตัวไหน ค่าเราบริหาร หรือค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าวัตถุดิบ หรือค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

          3. พฤติกรรมของการสายการผลิตของเราเป็นอย่างไร ลักษณะของการผลิตแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน ซึ่งท่านต้องเข้าใจตัวเองให้ดี เช่น การผลิตจริงเราเน้นการใช้เครื่องจักรมา คนหน้าที่เพียงหยิบชิ้นงานใส่ลงไป หรือเราใช้คนมากเครื่องจักรใช้น้อย เป็นต้น)

          4. เมื่อทราบว่าต้นทุนเกิดที่ไหน พฤติกรรมการผลิตเป็นอย่างไร ก็ต้องมาเชื่อมโยงกับกับ OEE ของเราว่า OEE ที่เกิดขึ้นของเราเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น ความพร้อม สมรรถนะ ของดี เป็นอย่างไรบ้าง ตัวไหนสูงตัวไหนต่ำ และต้องเจาะลงไปให้ลึกด้วยว่าที่ว่าต่ำนั้น เกิดขึ้นจากปัญหาอะไร เช่น ความพร้อมต่ำเนื่องจากเครื่องจักรหยุดนาน และที่ว่าเครื่องหยุดนานเกิดจากอะไร เครื่องเสียหรือเปลี่ยนงาน ถ้าเครื่องเสียก็ต้องลงไปให้ลึกอีกว่า เครื่องเสียบ่อยหรือเครื่องเสียนาน ถ้าเครื่องเสียนานเกิดจากซ่อมนานหรือหาชิ้นส่วนนาน เป็นต้น

          5. กำหนดว่าเราควรทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหานั้นๆ

ดังนั้นในการทำ OEE ของเรา เราต้องพิจารณาไม่ใช่แค่ต่ำ แต่ข้อมูลที่ได้มาจากการทำ OEE ของเรานั้นมีมากพอที่จะให้เราใช้ในการปรับปรุงหรือไม่ 

การที่เราใช้ OEE เพียงแค่ดูว่าต่ำหรือสูง จึงไม่เป็นประโยชน์ แต่การใช้ข้อมูลที่ได้มาจาก OEE กลับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการบริหารงานมากกว่า การเก็บข้อมูลของ OEE จึงไม่ใช่แค่เก็บเพื่อให้ได้ค่า OEE แต่ต้องลงลึกให้ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้เพื่อใช้ในการปรับปรุง

หาไม่แล้วการวัด OEE ก็เหมือน มีดในมือโจร รังแต่จะทำให้เราเจ็บตัวเสียเปล่าๆ