วันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสไปสอนที่โรงงานแห่งหนึ่งเรื่อง “Visual Workplace เพื่อขจัดความสูญเปล่า”
วันนั้นมีผู้เข้าร่วมอบรมประมาณ 30 คน ผมเปิดฉากด้วยการตั้งคำถามว่า “เราต้องรู้อะไรบ้าง เพื่อทำให้งานของเราสำเร็จ”
ผมปล่อยเวลาสักพักหนึ่งเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เขียนสิ่งที่ต้องรู้ เพื่อทำให้งานของเราสำเร็จ โดยให้ทุกคนเขียนลงในกระดาษที่เตรียมไว้ให้ จากนั้นผมก็จะขออาสาสมัครจากผู้เข้าอบรม ให้อ่านสิ่งที่เขาเขียนให้เพื่อนๆที่เข้าอบรมด้วยกันรู้ฟัง
ระหว่างนั้นเอง มีผู้เข้าอบรมท่านหนึ่งที่นั่งอยู่หลังห้อง ลุกขึ้นทั้งยืนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หน้าตาของเขาบ่งบอกเลยว่าเขาไม่พอใจอย่างมาก เขาเป็นชายตัวสูง ร่างกายกำยำ ผิวคล้ำ ใส่ชุดหมีซึ่งรู้ได้แทบจะทันทีว่าเขาเป็นพนักงานช่าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดตามสีหน้าของเขาว่า
“อาจารย์!!! อาจารย์รู้ไหมว่าผมอยากรู้อะไร?” เขามองมาที่ผมด้วยสีหน้าเครียดเหมือนเดิม แววตาเหมือนโกรธใครมาสักร้อยปี ในเวลานั้นบรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเครียด ทุกคนมองมาที่ผมกับชายร่างใหญ่คนนั้น ผมทำใจดีสู้เสือ ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้เป็นคนทำให้เขาเครียดขนาดนี้แน่นอน
“ผมไม่ทราบครับ แต่ผมอยากทราบว่าคุณพี่ชื่ออะไรครับ?” ผมถามอย่างนอบน้อมครับ
“อาจารย์ ผมชื่อ มนัส ผมรู้ว่าอาจารย์ไม่รู้ แต่ผมอยากรู้ อยากรู้มาก อยากรู้มากๆ” เสียงไต่ระดับความดังของเสียงให้ดังขึ้นตามระดับความต้องการของเขา เสียงขอเขาดังไปทั่วห้องอบรม น้ำเสียงเขาแข็งกร้าว ผมคิดในใจว่าผมจะช่วยเขาได้อย่างไร อะไรที่ผมไม่รู้ในความคิดของเขา ผมต้องช่วยให้เขาผ่านความเครียดนี้ไปให้ได้แต่ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยปากถามอะไร
เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเท้าโต๊ะโน้มตัวมาข้างหน้า หน้าเขาเครียดแล้ว เขาก็กล่าวต่อขึ้นมาว่า “ผมอยากรู้ว่า ใครเอาประแจผมไป? ผมวางเอาใส่ไว้กล่องเครื่องมือของผม แต่เมื่อเช้าผมจะใช้เอาไปตั้งเครื่อง มันไม่อยู่แล้ว ใครเอาประแจผมไป เอามาคืนด้วย อย่าให้ไปเจอนะ ว่าอยู่ที่ใคร” แล้วเขาก็นั่งลง
เพื่อนในห้องประชุมต่างพอกันบอกว่า พี่มนัสใจเย็นๆ เดี๋ยวคนที่เขาเอาไปก็เอามาคืนเองแหละ
“ขอให้จริงเถอะ นี่มันตัวที่สามแล้วนะ หาย แ…งได้ตลอดเลย”
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเริ่มอบรมเรื่อง Visual Workplace ปัญหาเกิดขึ้นจากการที่เราไม่เคยทำให้ข้อมูลที่เราต้องรู้ถูกแสดงออกมา ช่างมนัสต้องการใช้เครื่องมือของเขา แต่เครื่องมือไม่อยู่ในที่ที่เขาต้องการให้มันอยู่ เขาไม่เคยรู้ว่ามันหายไปจากกล่องเครื่องมือของเขาแล้วตั้งแต่เมื่อไร เขาไม่รู้ว่าใครเอาเครื่องมือของเขาไป นี่คือภาพความวุ่นวายของการขาดการทำ Visual เพราะเราไม่เคยมีข้อมูลที่เราต้องรู้ อยู่ในเวลาที่เราต้องการรู้ เราไม่เคยรู้ว่า วัตถุดิบที่ต้องใช้อยู่ที่ไหน ไม่เคยรู้ว่าวัตถุดิบตัวไหนต้องใช้ก่อน ไม่รู้ว่าสายการผลิตต่อจากเราเขาต้องการอะไร สายการผลิตก่อนหน้าเราเขากำลังทำอะไรอยู่ ไม่เคยรู้ว่าเครื่องมือที่ต้องใช้อยู่ที่ไหน เราทำได้เพียงแค่วิ่งหาข้อมูลที่ต้องการ
นั่นคือหลักฐานที่บอกว่า เรากำลังขาดการทำ Visual อย่างรุนแรง
เมื่อขาด Visual ข้อมูลหรือ Information ที่ต้องการจึงไม่มี ทุกอย่างจึงมีแต่ความวุ่นวาย เสียเวลา เสียทรัพยากร ทำให้ Lead Time นานขึ้น ทำให้ Changeover ใช้เวลามากกว่าเดิม
เราจะมีวิธีการใดที่จะทำให้องค์กรของเราเป็นองค์กรที่ Visual เพื่อลดปัญหาในการทำงาน ด้วยหลักสูตร “Visual Workplace เพื่อขจัดความสูญเปล่า” ในวันที่ …. มิย. 2558 ติดต่อสอบถาม โทร. 021710211